สำหรับนักปฏิบัติธรรมผู้สนใจใผ่งานบุญที่ไม่คุ้นเคยอาจจะหาทางมาวัดหนองไผ่ได้ลำบากหรืออาจหลงทาง เพื่อเป็นการแนะนำทุกท่านที่อยู่ต่างจังหวัดที่มีความสนใจใคร่เดินทางมาปฏิบัติธรรมและศึกษาพระกรรมฐาน ขออนุญาตแนะนำเส้นทางมาวัดและรายละเอียดปลีกย่อย ดังนี้
รูปที่ ๓ ประตูเมืองสกลนคร
การเดินทางมาวัดป่าหนองไผ่ให้เริ่มต้นที่ประตูเมืองสกลนคร บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดสกลนคร หันหน้าไปทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งเข็มไมล์รถยนต์ท่านไว้ที่เลข ๐ แล้วขับขึ้นไปทางเทือกเขาภูพานระหว่างเส้นทางจะผ่านปั๊มน้ำมัน ปตท. ร้านอาหารทางซ้ายมือ ร้านซ่อมรถยนต์ ร้านขายกล้าไม้พันธุ์ไม้ ผ่านร้านโฮมมาร์ท ถึงสี่แยกไฟแดง เป็นถนนบายพาสตัดใหม่ (ที่นี่เรียกบายพาสน้อย) ให้ขับตรงขึ้นไปขวามือมีร้านอาหารตะวันแดงสาดแสงเดือน ณ สกลนคร ให้ขับตรงไปจะผ่านปั๊มน้ำมันเชลล์ ขวามือผ่านค่าย ตชด. ศรีสกุลวงศ์ ซ้ายมือเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ท่านจะมาถึงสี่แยกไฟแดงจะเป็นเส้นบายพาสใหญ่นอกเมือง จะมีป้ายบอกซ้ายมือไปอำเภอนาแก ขวามือไปนครพนม ตรงแยกไฟแดงนี้มีสวนหย่อมสวยงามมาก ระยะทางจากศาลากลางจังหวัดสกลนครถึงสี่แยกไฟแดงประมาณ ๒.๙๐ กม. ให้ขับรถตรงไปทางจังหวัดกาฬสินธุ์
ด้านขวามือจะเห็นปั๊มน้ำมันบางจากมีห้องน้ำที่สะอาดสะอ้าน บริการดี ประทับใจ ผ่านโรงเรียนเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือสกลนคร เข็มไมล์รถจะอยู่ที่ ๔.๔๐ กม. มองเห็นป้ายบอกทางไป อำเภอเต่างอยพร้อมกับเห็นถนนสามแยกให้ท่านเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอเต่างอย ๒๕ กม. แต่ที่หลักกิโลเมตรตรงสามแยกจะบอกว่า ๒๓ กม. ขอท่านอย่าได้แปลกใจเพราะว่ากรมทางหลวงชนบทอยากจะทดสอบเชาว์ปัญญาของท่านเพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจ กรุณาอย่าลังเลสงสัยหรือมึนงง !!!
รูปที่ ๔ ป้ายบอกระยะทางไปอำเภอเต่างอย
ให้เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทาง หมายเลข ๒๓๓๙ ตัวเลข ๔ ตัวนี้ ดูเหมือนว่าจะทุรกันดาร แต่ความจริงเส้นทางไปวัดป่าหนองไผ่สะดวกสบายมากลาดยางอย่างดีตลอดถึงวัด แล้วมีป้ายบอกระยะทางว่า อ.เต่างอย ๒๕ กม. อ.เขาวง ๖๗ กม. ป้ายนี้จะอยู่ตรงวัดสังคมโพธาราม บ้านศรีวิชา หมู่บ้านนี้เรียกว่า หมู่บ้านศรีวิชา เป็นชุมชนใหญ่ ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ หลังคาเรือน เป็นชุมชนที่มีรั้วรอบขอบชิด อยู่นอกเมืองสกลนคร สภาพน่าอยู่น่าพักอาศัย ตามเส้นทาง หากมองไปทางขวามือ จะเห็นเทือกเขาภูพานอยู่รำไรเขียวขจีงดงาม เข็มไมล์อยู่ที่ ๖.๕๐ กม.
เส้นทางลาดยางคดโค้งไปมา มีต้นยูคาลิปตัสปลูกอยู่ริมทางเป็นระยะ ๆ ตลอดเส้นทางซ้ายขวาเป็นทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา ชาวนากำลังไถนา ดำนา บางคนตั้งวงกินข้าวเที่ยง บางคนกำลังหาบกล้า บางคนถอนต้นกล้า เป็นภาพชีวิตที่งดงามมาก สังคมเมืองคงหาไม่ได้แล้วจะมีแต่อยู่ชนบทอีสานบ้านเฮาเท่านั้น
รูปที่ ๕ วิถีชีวิตชาวนา
รูปที่ ๖ ป้ายบ้านพะเนาว์
บ้านพะเนาว์ เป็นหมู่บ้านต่อจากบ้านศรีวิชา ฝั่งด้านขวามีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าการ์เม้น ชื่อบริษัท ภูมิภาคอุตสาหกรรม จำกัด ผลิตเสื้อผ้าส่งออก บริเวณนี้มีถนนหนทางคดโค้ง มองเห็นเทือกเขาภูพานสวยงาม เมื่อผ่านโค้งมาด้านขวามีป้าย วัดเชิงดอยเทพรัตน์ ซึ่ง หลวงปู่คำฟอง มิตตาภานี พระอริยสงฆ์อีกรูปหนึ่งท่านอยู่พักจำพรรษาที่นี่ อัฎฐิของท่านหลังจากฌาปนกิจศพแล้วเป็นพระธาตุภายใน ๓ วัน ผู้เขียนได้มีโอกาสพบเห็นปาฏิหาริย์ของหลวงปู่และมีโอกาสขอความเมตตาจับมือขวาหลวงปู่คำฟองเมื่อประมาณปี ๒๕๒๗ ฟังท่านเล่าเรื่องราวต่าง ๆ หลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาเป็นการส่วนพระองค์ทรงสนทนากับหลวงปู่ตอนเย็นใกล้จะสรงน้ำ หลวงปู่เป็นพระอริยสงฆ์ที่มีเมตตาจิตอย่างเปี่ยมล้น
รูปที่ ๗ ป้ายบ้านนาขามและบ้านโพนก้างปลา
ผ่านเข็มไมล์ที่ ๑๓ กม. ถึงบ้านนาขาม ผ่านมาบ้านโพนก้างปลา บริเวณนี้จะเห็นเทือกเขาภูพาน ขนานกับถนน มีวัดที่หลวงปู่ฝั้นมาสร้างไว้ ถ้าท่านเดินทางมาถึง ให้ท่านสังเกตป้ายหมู่บ้านนี้ ทางขวามือจะเห็นหน้าผาสีขาว นั่นแหละ คือ สำนักสงฆ์ภูผาแด่น มีความสูงชันมาก ซ้ายมือเห็นป้ายบอกสถานีตำรวจภูธรดงมะไฟ ขออย่าได้เข้าใจผิดว่าเป็นเทศบาลดงมะไฟ คนละที่กัน มีวัดศรีชุมพลอยู่ทางซ้ายมือเป็นวัดที่ลูกศิษย์ของหลวงปู่คำฟองชื่อ พระอาจารย์คำมา เคยเป็นเจ้าอาวาสตอนนี้ท่านมรณะภาพแล้ว พระอาจารย์คำมา เป็นผู้ทำเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงปู่คำฟอง มิตตาภานี
รูปที่ ๘ ป้ายทางเข้าวัดถ้ำผาแด่น
ถ้ำผาแด่นสมัยก่อนคงเดินทางขึ้นลงลำบากมาก แต่สมัยนี้มีบันไดหลายขั้นสูงชันตรงหน้าผามีชะง่อนหินที่เล่าว่า หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านขึ้นไปบำเพ็ญภาวนา หมู่บ้านโพนก้างปลา คงไม่ต้องแปลความหมายเพราะรู้จักก้างปลาอยู่แล้ว ถนนหนทาง ๒ ฟากฝั่ง เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มชุ่มชื้น ทุ่งนาเขียวขจี เห็นเทือกเขาภูพานเด่นชัดมากกว่าเดิม เทือกเขาภูพานบริเวณนี้เขียวชอุ่มชุ่มชื้นทั้งปี
ออกจากหมู่บ้านโพนก้างปลา ก็เข้าหมู่บ้านนากับแก้ จากศาลากลางจังหวัด ถึงบ้านนากับแก้ เข็มไมล์ที่ ๑๗.๐ กม.พอดี ตรงป้ายบ้านนากับแก้จะมีต้นมะขามอยู่ ๑ ต้น
รูปที่ ๙ ป้ายหมู่บ้านนากับแก้มีต้นมะขาม
คำว่า กับแก้ หมายถึง ตุ๊กแก ดังนั้น ถ้าเห็นคำว่า กับแก้กับโกน ปะโลนหัวออก ตีนกูตอกกับแก้กับโกน ในหนังสือเล่มนี้ ให้หมายถึง ตุ๊กแก
รูปที่ ๑๐ ป้ายหมู่บ้านเหล่านกยูง
หลักกิโลเมตรที่ ๑๓ ถึงบ้านเหล่านกยูง สองข้างทางสงบร่มรื่น เป็นความได้เปรียบของคนที่อยู่ชนบท คือ อากาศที่บริสุทธิ์สายลมเฉื่อยฉิวเยือกเย็นมาก วัดอุดมมงคลอยู่ซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นสำนักสงฆ์ภูดานบก ธรรมชาติแถบนี้ยังมีนก สัตว์ป่าให้เห็น แม้ตอนที่เดินทางมานี้ยังมีนกป่า ๑ ตัว น่าจะเป็นนกกก บินลงกลางถนนแล้วโผบินขึ้นต้นไม้เดินตามไปถ่ายรูปไว้ได้ รู้สึกตื่นเต้นมากเหมือนเห็นฝูงลิงและกวางที่น้ำตกผากล้วยไม้ อุทธยานแห่งชาติเขาใหญ่เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าแถบเทือกเขาภูพาน
รูปที่ ๑๑ นกกกจับต้นไม้ริมถนน
ถึงป้ายบ้านหนองไผ่ หลัก กม.ที่ ๘ เข็มไมล์ที่ ๒๑.๖ กม.ให้ระวังด้วยเพราะมักจะมีวัว ควายมาเดินขวางหน้าเป็นเจ้าถนน
รูปที่ ๑๒ ป้ายบ้านหนองไผ่
บ้านหนองไผ่เป็นชุมชนหนาแน่นประมาณ ๑๐๐ กว่าหลังคาเรือน ทางแยกขวามือเข้าวัดป่าหนองไผ่ ใกล้กันมีโรงเรียนบ้านหนองไผ่ และมีบ้านหลังใหญ่สวยงามอยู่ตรงทางเข้าวัด
ถนนทางเข้าวัดป่าหนองไผ่ เรียกว่า ถนนนวลมณีร่วมใจ ระยะทาง ๑.๒ กม. คุณตาฟอง คุณยายฉลวย นวลมณี และลูกหลานสมทบเงิน ๑ ล้านบาท ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๘ งบสร้างถนนแอสฟาติคคอนกรีต ยาว ๑.๒ กม. งบประมาณ ๑๓๐,๐๐๐ บาท
รูปที่ ๑๓ โรงเรียนบ้านหนองไผ่ ป้ายบอกทางเข้าวัดป่าหนองไผ่
ตอนนี้จะอยู่ที่เข็มไมล์อยู่ที่ ๒๒.๒ กม.พอดี หรือถ้าเป็นรถยนต์ต่างยี่ห้อกันก็คงคลาดเคลื่อนกันไม่มากนัก ประมาณว่าจากสกลนครถึงวัดป่าหนองไผ่ ๒๐ กิโลเมตรก็แล้วกัน
เส้นทางเข้าวัดป่าหนองไผ่ มีต้นลีลาวดีและต้นยูคาลิปตัส ตลอด ๒ ข้าง สวยงามมาก
รูปที่ ๑๔ ถนนเข้าวัด ดอกลีลาวดีสีขาว ป้ายวัดทำด้วยหิน(ห้ามยกเล่น)
จอดรถที่หน้าวัดป่าหนองไผ่ ตรงป้ายหินวัดป่าหนองไผ่ จะมีต้นลีลาวดีต้นใหญ่ดอกสีแดง สีขาว ก่อนจะถึงประตูเข้าวัด มีสถานที่สำหรับตักบาตรพระของญาติโยม มีอ่างเก็บน้ำ มีดอกบัวหลวง ฝักบัว มีทางน้ำไหล หน้าวัดนี้จะมีก๊อกน้ำแร่จากภูเขาสำหรับญาติโยมนำภาชนะมารองไปดื่มกินได้ฟรีตลอดปี จะเห็นได้ว่าแม้แต่บริเวณทางเข้าวัดก็ยังร่มรื่นสุขกายสบายใจเมื่อมาถึงแล้ว
เข้ามาในบริเวณด้านหน้าวัดป่าหนองไผ่ มีต้นไม้หลากชนิดหลายพันธ์ เช่นลีลาวดีดอกสีแดง สีขาว ต้นเข็ม ปักษาสวรรค์ ต้นมะม่วง ต้นยาง ไผ่ กล้วยไม้ อ่างเก็บน้ำ ผีเสื้อหางตุ้มอดัมสันหรือผีเสื้อตุ้มทอง ผีเสื้อนางนวลหางพวงสีขาว ได้ยินเสียงนกร้องเซ็งแซ่ กระรอกกระแตส่งเสียงร้องไล่กวดหาอาหารกันเกลียวกราว เดินขึ้นไปด้านบนของวัดเลี้ยวซ้ายมือก่อนขึ้นไป ถ้ำหลวงปู่ฝั้น อาจาโร จะมีโขดหินธารน้ำไหล
สาดซ่ายามหน้าฝนตลอดทั้งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ในวัดสงบเงียบเหมาะสำหรับการบำเพ็ญภาวนาขัดเกลาจิตใจยิ่งนัก ดังตัวอย่างภาพที่นำมาประกอบไว้แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น